Tuesday, September 22, 2009

ล่องแพกาญจนบุรี


ไปล่องแพที่กาญจนบุรีครั้งนี้ไปกับพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆ ฝ่ายเทศกิจ เห็นพี่ๆเค้าบอกว่าเป็นงานเลี้ยงส่งเนาะที่สอบติดตำรวจ..ออกเดินทางจาก กทม. ตอนเที่ยงของวันที่19ก.ย.52 ไปถึงกาญจนบุรีประมาณบ่าย3ก็แวะซื้อข้าวของตุนไปกินกันที่แพ แต่ในระหว่างเดินทางก็มีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องคือ น้องยอดได้ถูกเรียกให้ไปรายงานตัวตำแหน่งเจ้าพนักงานป้องกันฯ3แล้ว ก็ดีใจกันไปอ่ะนะ ลงแพประมาณบ่าย4โมง ก็ลงมือทำอาหารกันเองเนื่องจากว่างานนี้ไม่ได้จ้างแม่ครัว พวกพี่ๆเทศกิจเค้าพาแม่บ้านมากันก็เลยทำกันเองดีกว่า พี่เค้าว่างั้นนะ..หลังจากเสร็จจากเรื่องในครัวก็เป็นเวลาส่วนตัวของเราแล้ว ได้ปลีกตัวออกมานั่งชมบรรยากาศสวยๆงามๆสองฝั่งแม่น้ำแควยามเย็น มองเห็นต้นไม้ทั้งสองฝั่งน้ำ เห็นภูเขาอยู่ไกลๆ กับแสงสีทองของดวงตะวันยามใกล้จะลับขอบฟ้า สวยงามจริงๆ นี่เป็นช่วงที่ทิพย์พยายามเก็บภาพความประทับใจไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด แพที่ล่องเป็นแพเธค พวกพี่ๆเค้าก็เปิดเพลงกัน ถึงจะเสียงดังไปซักหน่อยแต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ไม่เหงาดี ปกติก็อยู่กับความเงียบมามากแล้ว ได้มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องปลดปล่อยกันหน่อย แพล่องไปได้ซักประมาณเกือบชั่วโมงได้มั้ง ก็จอดที่ท่าน้ำ ซึ่งข้างบนจะมีห้องน้ำไว้บริการ พอแพจอดได้ซักพัก พี่ตินก็ชวนเล่นน้ำ มองไปเห็นน้องนำกะเก่งโดดลงไปเล่นก่อนเราแล้ว เออ มีพวกแล้ว ไม่น่ากลัวแล้วงานนี้ 55 ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะไม่ลง กลัวปลิง น้องปูก็มาชวนว่าจะเล่นรึป่าว จะเล่นเป็นเพื่อน(แต่พอทิพย์ลงน้องปูกลับไม่ลงซะงั้น) ก็สองจิตสองใจยังกลัวๆกล้าๆ ความจริงเป็นคนที่ชอบเล่นน้ำมาก เห็นเป็นไม่ได้ ต้องโดดลงไปดำผุดดำว่ายแล้วล่ะ แต่งานนี้กลัวปลิงจริงๆ สุดท้ายคุณเนาะ กะคุณพี่ตินค่ะ มาช่วยกันผลักลงน้ำคงจะรำคาญท่าทางของเรากันน่ะ เล่นซะสำลักน้ำกันไปเลย น้ำก็ลึกมาก ทีแรกก็กลัวเหมือนกัน พอได้ลงแล้วทีนี้ไม่อยากจะขึ้น เล่นซะสะใจกันไปเลย หินบาดนิ้วเท้าได้แผลกลับมาด้วยอีกตะหาก เฮ้อ ตกกลางคืนพวกพี่ๆน้องๆเค้าก็ร้องคาราโอเกะกัน(เตรียมไปเองเพราะแพเค้าไม่มีให้) ก็สนุกสนานเฮฮากันไป บางคนก็ไปนั่งตกปลา ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบอะไร หลังจากที่ร้องคาราโอเกะกันจนพอใจ ดีเจก็เปิดเพลงแดนซ์กระจาย ทุกคนดูเป็นกันเองมากทิพย์ก็พลอยสนุกกะเค้าไปด้วย ประมาณ5ทุ่มก็เลยแยกตัวขึ้นไปนอน แต่ที่ไหนได้นอนไม่หลับเพราะเสียงเพลงดังมาก ทั้งจากแพเราเองและแพข้างๆอีกหลายแพ เล่นเปิดเพลงแข่งกันจนฟังไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไร นอนรอจนเธคปิดตอนเที่ยงคืน คิดว่าคงได้หลับกันซะที แต่..ก็ไม่หลับเพราะพี่คนนึงเค้านอนกรนดังมากกกกกก..(สงสารเค้าเลยอ่ะ เหมือนพี่เค้าจะหายใจไม่ออก) ปาไปตี2ครึ่งก็ยังไม่หลับ ก็เลยเปลี่ยนมานอนข้างล่าง ทำท่าว่าจะหลับได้ ซักพักก็เสียงเรือดัง เสียงนู่นเสียงนี่ สรุปคือ คืนนี้แทบไม่ได้นอน หลับๆตื่นๆ พอเช้าแพก็ล่องกลับตอนแปดโมง กะว่าจะได้หลับก็ช่วงนี้ล่ะเรา ก็เลยปลีกตัวไปหาที่นอนข้างบน ซักพักน้องปูก็เดินมาชวนให้ไปเล่นข้างล่าง และแล้วก็ไม่ได้หลับอีกตามเคย ไปสนุกแดนซ์กระจายกันจนถึงที่หมายนั่นแหละ ขึ้นจากแพประมาณเที่ยงถึงกทม.ประมาณบ่ายสามโมง
สรุป ไปล่องแพครั้งนี้ที่ประทับใจคือ บรรยากาศของริมแม่น้ำตอนตะวันตกดิน สวยงามมาก และอีกอย่างคือประทับใจความเป็นกันเองของพี่ๆน้องๆทุกคน จริงๆแล้วทิพย์ไม่ค่อยได้เล่นสนุกอย่างนี้บ่อยๆนะ คือ ถ้าไม่สนิทจนกล้าเปิดใจนี่ก็ไม่เล่นเลย ไม่รู้ว่าพอพี่ๆน้องๆได้เห็นตัวตนอีกด้านของทิพย์นี่จะรับได้กันรึเปล่า ฮ่าๆๆ..เอาเป็นว่าถ้าครั้งนี้การกระทำหรือคำพูดของทิพย์ทำให้พี่ๆน้องๆไม่พอใจต้องขอโทษด้วยนะคะ ต้องขอขอบคุณพี่กุ้งกับพี่โอที่ชวนน้องทิพย์ไปในทริปนี้..เหตุการณ์ทุกอย่าง ความประทับใจที่ได้พบ จะยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป..

Friday, September 4, 2009

ตลาดน้ำดอนหวาย


ไปเที่ยวตลาดน้ำดอนหวายเมื่อวันอาทิตย์ที่30ส.ค.52 ต้องบอกก่อนว่าไปครั้งนี้ ไปกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่..เอ๊ย ไม่ใช่ แค่เพื่อนเก่าก็พอ ส่วนแก่น่ะเป็นคำไม่สุภาพสำหรับผู้หญิงเค้าห้ามพูดกัน ใครพูดโกรธกันเป็นชาติ ฮ่าๆๆ..เพื่อนเป้าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปวช.(อายุ15นู่นเลย) เคยอยู่หอพักหญิงด้วยกัน กิน นอน เรียน เที่ยว อยู่ในกลุ่มเพื่อนซี้ปึ้กกันเลยทีเดียว ก็ห่างหายกันไปนานตั้งแต่เรียนจบปวช. ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียน ไปทำงาน พอโทรติดต่อกันได้นัดเจอกัน เป็นธรรมดาไม่ได้เจอกันนานๆ ดีใจสุดๆ ให้นั่งคุยกันได้เป็นหลายๆชั่วโมงก็ไม่เบื่อ ยิ่งถ้าได้พูดถึงวันเวลาเก่าๆนี่ ไม่ต้องมีคำบรรยาย เหมือนกลับไป15อีกครั้ง อิอิ..
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปตลาดน้ำดอนหวาย คือ ต่างคนก็ต่างไม่เคยไป(ไปกัน3คน) รู้แค่ว่ามันอยู่ทางไปนครปฐม คนขับรถ(แฟนเพื่อน)ก็ไม่เคยไป บอกว่าเคยผ่าน..แต่นานแล้ว..เอาล่ะสิงานนี้ แต่ในที่สุดก็ไปถูกแฮะ (ไปไม่ถูกได้งัย มีป้ายบอกทางออกชัดเจนซะขนาดนั้น) ไปถึงก็เกือบๆบ่ายโมง หิวสุดๆ ข้าวเช้าข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน ก็เลยพากันไปแวะกินข้าวที่แพริมน้ำ อาหารรสชาติถูกปาก อร่อยมากมาย(หรือว่าเพราะหิวจัดก็ไม่รู้) ถ้าเพื่อนๆว่างๆ ก็ลองไปชิมกันเอาเอง แต่ทิพย์ว่าอาหารเค้าอร่อยจริงๆนะ พอกินเสร็จตาก็พลันเหลือบไปเห็นเรือลำนึง น่าจะเป็นเรือที่เค้าพาล่องแม่น้ำท่าจีน หันกลับมามองหน้ากัน แล้วก็พูดว่า ทำไมเราไม่ไปนั่งกินอาหารบนเรือกันล่ะเนี่ย ซักพักได้ยินเสียงประกาศว่า ใครที่ต้องการนั่งเรือทานอาหารชมบรรยากาศของแม่น้ำท่าจีนให้ไปซื้อตั๋วได้ที่ที่จำหน่ายตั๋ว เรือล่องไปกลับใช้เวลาชั่วโมงสิบห้านาที ราคาคนละเท่าไหร่จำไม่ได้ละ คิดว่าเค้าคงจะประกาศอยู่เรื่อยๆล่ะ แต่เราคงหิวจัดไม่ได้ฟัง รีบหาที่นั่งแล้วก็สั่งๆๆๆๆ แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินๆๆๆๆ พออิ่มถึงรู้ว่าเค้ามีล่องเรือด้วย ก็เลยได้แต่เสียดาย..กินเสร็จก็พากันเดินชมตลาด ตลาดมีลักษณะตัวอาคารเป็นไม้เก่าๆ ค้นดูประวัติเค้าบอกว่าน่าจะสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่6นู่นแน่ะ ในตลาดคนเยอะมากกกกก..คงเพราะเป็นวันอาทิตย์นักท่องเที่ยวนักชิมมากันเพียบ เดินเบียดเสียดกันเลย ในตลาดมีของขายเยอะมาก น่ากินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ผัก ผลไม้สดๆจากสวน โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอมสดๆ ดื่มแล้วชื่นใจ ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการเดินชมตลาดได้ดีทีเดียวค่ะ เคยรู้มาว่าถ้าไปตลาดน้ำดอนหวาย หลายคนมักจะไปซื้อเป็ดพะโล้ หรือไม่ก็ขนมหวาน และห่อหมกปลาช่อน เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของตลาดดอนหวาย (แต่ทำไมเราไม่ได้ซื้ออาหารขึ้นชื่อพวกนี้เลยแฮะ) เดินไปเรื่อยๆ ก็พบกับแหนมเนือง อยากกินค่ะ ก็เลยซื้อมา2ถุงฝากเพื่อนๆที่ทำงานด้วย เดินชมตลาดจนพอใจขากลับก็แวะซื้อกล้วยไม้มาเลี้ยงที่ห้องอีก3ต้น กลับถึงห้องก็4โมงครึ่ง
สรุป ไปตลาดน้ำดอนหวายครั้งนี้ ที่ประทับใจก็น่าจะเป็นรสชาติอาหารที่ถูกปากนั่นแหละ นึกเสียดายที่ไม่ได้ล่องเรือชมบรรยากาศแม่น้ำท่าจีน ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้ไปอีกรับรองไม่พลาดแน่ๆ