Thursday, June 6, 2013

สงกรานต์ปีนี้ไปทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อการศึกษา - ที่นางรองบ้านเรา


สงกรานต์ปีนี้ กลับบ้านพร้อมกับซองผ้าป่าที่รวบรวมได้จากผู้ใจบุญ (เพื่อนๆ และพี่ๆ ในที่ทำงาน) ผ้าป่านี้เป็นผ้าป่าเพื่อการศึกษาทอด ณ โรงเรียนบ้านหนองตะลุมปุ๊ก โรงเรียนที่ทิพย์เรียนตั้งแต่ชั้นประถมถึงมัธยมต้น ผ้าป่าครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่าทั้งหลาย ที่แยกย้ายไปทำงาน ณ ที่ต่างๆ แต่ละปี ก็จะมีโอกาสได้หยุดยาวหลายวันและกลับมารวมตัวกันอยู่ที่งานทอดผ้าป่านี่่แหละ บางคนเปลี่ยนไปซะจนจำกันแทบไม่ได้ (หล่อๆ สวยๆ กันทั้งนั้น ฮ่าๆๆ )..ศิษย์เก่าเหล่านี้นี่เองที่ช่วยกันบอกบุญ เรี่ยไรเงินคนละเล็กคนละน้อย แบ่งออกเป็นหลายๆ สาย พอนำมารวมกันก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งทางโรงเรียนจะนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนเพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยี และสืบค้นข้อมูลต่างๆ และส่วนหนึ่งจะนำไปสร้างรั้วโรงเรียนแบบคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงและทนทานกว่าในปัจจุบันที่มีลักษะณะเป็นรั้วลวดหนาม

งานบุญงานใหญ่ๆ ของหมู่บ้านเรา ปีนึงมีไม่กี่หนหรอกค่ะ อย่างวันสงกรานต์ที่จัดตั้งกองผ้าป่ากันนี่ จะจัดไปที่วัดซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่ิองจากหลายปีที่ผ่านมาจัดทอดผ้าป่าเพื่อสร้างศาลาการเปรียญทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมและรื้อทิ้งไปแล้ว (ซึ่งตอนนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ) ปีนี้เปลี่ยนมาจัดที่โรงเรียนบ้าง ก็ถือว่าเป็นการช่วยกันพัฒนาวัด พัฒนาโรงเรียน ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งสองแห่งนี้คือแหล่งเรียนรู้และปลูกฝังจิตสำนึก ค่านิยม และให้ความรู้แก่คนในหมู่บ้านเรามาหลายรุ่นแล้วค่ะ พอจัดงานทอดผ้าป่าหาเงินรายได้มาพัฒนาวัด พัฒนาโรงเรียน ทุกคนจึงร่วมมือร่วมใจช่วยกันอย่างเต็มที่ ทิพย์เชื่อว่าคนที่มีความกตัญญูรู้คุณจะประสบแต่ความสุขและความเจริญในชีวิตค่ะ

สำหรับกำหนดการของงานทอดผ้าป่าในครั้งนี้คือ ตั้งกองผ้าป่าวันที่ 13 เม.ย. 56 และทอดผ้าป่าในวันที่ 14 เม.ย. 56 บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ชาวบ้านในหมู่บ้านเราและหมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วมงานกันหนาตา ในงานไม่ได้จัดมหรสพอะไรมากนัก มีเพียงรำวงชาวบ้าน และมหาลัย ก.ไก่ รำวงชาวบ้านนี่นะ อดทนสู้แดดกันสุดๆ รำวงกลางแดดกันเลยค่ะ ชาวนาเราแรงดี บางคนเหนื่อยก็มานั่งพัก หายเหนื่อยก็ไปรำต่อ บางคนอยู่ที่งานทั้งวันยันกลางคืนกันเลยก็มี เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนานของใครหลายๆ คนเลยล่ะค่ะ ข้างๆ กับเวทีรำวงชาวบ้าน จะมีโต๊ะบริการน้ำดื่ม และอาหารให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ลักษณะเหมือนโรงทาน คือ จะมีผู้ใจบุญรับเป็นเจ้าภาพจัดหาอาหารและน้ำดื่มมาคนละชนิด ใครหิวหรืออยากทานอะไรก็เดินมาหยิบหรือตักทานเองได้เลย (ขอบอกว่าขนมจีนน้ำยาอร่อยมากๆ ) ส่วนมหาลัย ก.ไก่ ก็เฮฮาไม่แพ้กันค่ะ มีลูกค้าแวะเวียนมานั่งเล่นตลอดทั้งวัน วิธีการก็คือ ผู้จัดจะนำกระดาษแข็งมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวพอประมาณ แล้วนำปากกาเมจิกมาเขียนตัวอักษร ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ แผ่นละเท่ากัน (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะแผ่นละ 6 ตัว) เขียนคละกันไปใน 1 แผ่นจะมีตัวอักษรที่ไม่ซ้ำกัน จากนั้นก็ทำสลากโดยเขียนตัวอักษร  ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ลงในฝาจีบของน้ำอัดลม ฝาละ 1 ตัว ทำเพียง 1 ชุด เวลาเล่นจะขายแผ่นกระดาษที่มีตัวอักษรให้แก่ผู้เล่นเป็นรอบ ราคาใบละเท่าไรขึ้นอยู่กับราคาของรางวัลที่ตั้งไว้ เช่น ใบละ 2 บาท ของรางวัลคือ น้ำอัดลมขนาด 1.25 ลิตร 2 ขวด แบบนี้เป็นต้น เมื่อขายแผ่นกระดาษได้ครบตามจำนวนที่ผู้จัดต้องการแล้ว ก็จะให้ลูกค้าซึ่งก็คือผู้ที่ซื้อแผ่นกระดาษที่ีมีตัวอักษรนั่นแหละค่ะ จับสลากฝาน้ำอัดลมทีละคน ๆ ละ 1 ฝา แล้วส่งให้ผู้จัดอ่านให้ผู้เล่นทุกคนทราบ และมีผู้จัดอีกคนคอยเขียนตัวอักษรที่ผู้เล่นแต่ละคนจับสลากได้ลงบนกระดานดำ โดยให้ผู้จับต่อกันไปเรื่อย ๆ บนแผ่นกระดาษของใครมีตัวอักษรตรงกับที่ผู้จัดอ่านก็ขีดฆ่าออกทีละตัว ถ้าในแผ่นกระดาษของใครมีตัวอักษรถูกขีดฆ่าครบทั้ง 6 ตัวก่อน และตัวอักษรถูกต้องตรงกับที่เขียนไว้บนกระดานดำ ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ และรับรางวัลไป ทิพย์จะไปยืนดูเฉยๆ มันก็ยังงัยๆ อยู่นะ อ่ะ ลองเล่นดูซักหน่อย หมดไป 20 บาท ไม่ชนะเลย สงสัยจะไม่มีดวง ก็เลยหยุดเล่นไป ส่วนน้องชายเล่นชนะครั้งนึง ได้รางวัลเป็นเหล้า 1 แบน น้ำอัดลม 1 ขวด และขนมขบเคี้ยว 1 แพ็ค (ข้างในมี 6 ซอง ๆ ละ 5 บาท) น้องชายหมดเงินไป 80 บาท เล่นรอบละ 2 บาทมั่ง 3 บาทมั่ง 5 บาทมั่ง คิดแล้วก็หลายรอบอยู่นะ เล่นกันแค่พอสนุกๆ ค่ะ พอเล่นหลายรอบเข้าก็เริ่มจะไม่สนุกแล้ว เพราะเสียสตางค์แต่ไม่ได้รางวัล ฮ่าๆ

หลังจากงานผ้าป่าผ่านไปเรียบร้อยแล้ว พักผ่อนอีกไม่กี่วันก็ได้เวลากลับไปทำงาน (อีกแล้ว) จำได้ว่าในตอนนั้นรู้สึกไม่อยากกลับ กทม. เลย ถ้าเป็นเด็กคงร้องไห้งอแงไปแล้วล่ะ..ขับรถออกจากบ้านน้ำตาซึม คิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงบ้าน เพื่อนๆ หลายคนคงพอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี..การที่ต้องจากบ้านไปไกล มันเศร้าใจมากแค่ไหน..ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านแล้วต้องกลับมาทำงาน ก็ยังคงรู้สึกเศร้าใจแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย..วางแผนไว้ในใจว่า วันหยุดยาวครั้งต่อไป จะกลับบ้านเรา ไปนอนรับไอหนาว ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ..แล้วพบกัน วันปีใหม่..ที่..นางรอง..