วันนี้ (21พ.ย.53) เป็นวันลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญวันหนึ่งของคนไทย ตรงกับวันขึ้น15ค่ำเดือน12 เชื่อกันว่าประเพณีนี้จัดขึ้นเพื่อบูชาและขอขมาต่อพระแม่คงคา แต่ทิพย์ก็ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนหรอกค่ะเพื่อนๆ เพราะวันนี้ในช่วงเย็นทิพย์เหน็ดเหนื่อยจากการไปชมการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2010 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ กับ การท่าเรือไทย เอฟซี ณ สนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาสัย หรือที่สนามศุภฯนั่นเองค่ะ
ไปครั้งนี้ก็ได้โทรนัดกับเพื่อนเป้า ซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่ที่บุรีรัมย์ค่ะ วันนี้ตามมาเชียร์ถึงกรุงเทพฯ ทิพย์ก็ไม่น้อยหน้าเพื่อนหรอกค่ะ แหม คนบุรีรัมย์เหมือนกันนี่คะ ด้วยใจรักจริงๆค่ะ ลงทุนซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมในราคา 200 บาท ระหว่างที่รอเพื่อนเป้า (บริเวณหน้าประตู4) ก็มีแฟนบอลของการท่าเรือฯ มาขอถ่ายรูปคู่ด้วย โอ้โห รู้สึกเหมือนเป็นดารายังงัยไม่รู้ ฮ่าๆๆ (เวอร์สุดๆ)
กลับมาพูดถึงบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2010 กันต่อนะคะ เริ่มเกมส์ที่บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน แต่เล่นไปได้เพียงแค่นาทีที่4เท่านั้น การท่าเรือฯก็เป็นฝ่ายขึ้นนำบุรีรัมย์ พีอีเอ อย่างรวดเร็ว 1-0 แต่พอถึงนาทีที่15 บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ลูกจุดโทษโดยผู้รับหน้าที่สังหารจุดโทษ คือ สุเชาว์ นุชนุ่ม นั่นเองค่ะ ทำให้บุรีรัมย์ พีอีเอ ตามตีเสมอได้ 1-1 เหล่ากองเชียร์ดีใจกันได้ไม่เท่าไหร่ ในนาทีที่27 การท่าเรือฯก็ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จนหมดเวลาครึ่งแรก การท่าเรือฯ นำ บุรีรัมย์ พีอีเอ 2-1
ในช่วงพักครึ่งแรกก็มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตของนักร้องขวัญใจชาวเพื่อชีวิต พี่แอ๊ด คาราบาว ซึ่งเป็นผู้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ นั่นเองค่ะ ก็เป็นที่ถูกใจกองเชียร์ชาวบุรีรัมย์ และสร้างความคึกคักภายในสนามได้มากเลยค่ะ
เกมส์ในครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็บุกเต็มที่ (ทิพย์ตะโกนเชียร์จนเจ็บคอกันเลยทีเดียว ลุ้นให้ตีเสมอให้ได้) แต่จนแล้วจนรอดก็ตามตีเสมอไม่ได้ซักที ครบ 90 นาที เกมส์ก็จบลงด้วยชัยชนะของการท่าเรือฯ 2-1 อกหักกันไปตามระเบียบ ได้รองแชมป์อีกแล้ว ครั้งที่แล้ว ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ก็รองแชมป์ เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ นักเตะทุกคนทำเต็มที่แล้ว ปีหน้าเอาใหม่ค่ะ สู้ต่อไปเถอะ บุรีรัมย์ พีอีเอ
หลังจากที่การแข่งขันจบลง ทิพย์กับเพื่อนเป้าก็แยกย้ายกันที่หน้าสนามศุภฯ เพื่อนเป้าขึ้นรถทัวร์กลับบุรีรัมย์ ส่วนทิพย์ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีตากสิน ก่อนอื่นก็ต้องหาอะไรกินก่อน (ด้วยความหิวโซ..กินข้าวเช้า+เที่ยงประมาณ11โมง มาถึงสถานีตากสินก็ทุ่มครึ่่งแล้ว) ที่บริเวณท่าเรือตากสินได้มีการจัดงานวันลอยกระทงของเขตบางรัก มีร้านจำหน่ายสินค้าเต็มไปหมด ผู้คนก็เยอะมาก เดินเบียดเสียดกันเลยทีเดียว ติดกับท่าน้ำก็มีการแสดงโขนด้วยค่ะ ทิพย์เดินดูได้ไม่ทั่วงานหรอกค่ะ ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกนั่นแหละว่า ทิพย์เหนื่อยล้าจากการเชียร์ฟุตบอลมานั่นเอง ก็เลยตัดสินใจไม่เดินต่อ กลับไปนั่งเลียแผลใจที่ห้องดีกว่า (หลังจากที่อกหักจากการแข่งขันในช่วงเย็น พอเกมส์จบก็นับศพทหารได้เลยค่ะ ตายเป็นเบือ!)
สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะเพื่อนๆ อ้อ ก่อนไปก็ขอแนะนำเพลงรำวงบุรีรัมย์ ให้เพื่อนๆรู้จักกันหน่อยค่ะ (เด็กบุรีรัมย์ถ้าไม่รู้จักเพลงนี้อ่ะ เชยๆๆๆ) แหม! นี่ถ้ามีโอกาสเจอกันกับเพื่อนๆ ทิพย์จะร้องเพลงนี้ให้ฟังเลยนะคะเนี่ย ^^
ไปครั้งนี้ก็ได้โทรนัดกับเพื่อนเป้า ซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่ที่บุรีรัมย์ค่ะ วันนี้ตามมาเชียร์ถึงกรุงเทพฯ ทิพย์ก็ไม่น้อยหน้าเพื่อนหรอกค่ะ แหม คนบุรีรัมย์เหมือนกันนี่คะ ด้วยใจรักจริงๆค่ะ ลงทุนซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมในราคา 200 บาท ระหว่างที่รอเพื่อนเป้า (บริเวณหน้าประตู4) ก็มีแฟนบอลของการท่าเรือฯ มาขอถ่ายรูปคู่ด้วย โอ้โห รู้สึกเหมือนเป็นดารายังงัยไม่รู้ ฮ่าๆๆ (เวอร์สุดๆ)
กลับมาพูดถึงบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2010 กันต่อนะคะ เริ่มเกมส์ที่บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน แต่เล่นไปได้เพียงแค่นาทีที่4เท่านั้น การท่าเรือฯก็เป็นฝ่ายขึ้นนำบุรีรัมย์ พีอีเอ อย่างรวดเร็ว 1-0 แต่พอถึงนาทีที่15 บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ลูกจุดโทษโดยผู้รับหน้าที่สังหารจุดโทษ คือ สุเชาว์ นุชนุ่ม นั่นเองค่ะ ทำให้บุรีรัมย์ พีอีเอ ตามตีเสมอได้ 1-1 เหล่ากองเชียร์ดีใจกันได้ไม่เท่าไหร่ ในนาทีที่27 การท่าเรือฯก็ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จนหมดเวลาครึ่งแรก การท่าเรือฯ นำ บุรีรัมย์ พีอีเอ 2-1
ในช่วงพักครึ่งแรกก็มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตของนักร้องขวัญใจชาวเพื่อชีวิต พี่แอ๊ด คาราบาว ซึ่งเป็นผู้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ นั่นเองค่ะ ก็เป็นที่ถูกใจกองเชียร์ชาวบุรีรัมย์ และสร้างความคึกคักภายในสนามได้มากเลยค่ะ
เกมส์ในครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็บุกเต็มที่ (ทิพย์ตะโกนเชียร์จนเจ็บคอกันเลยทีเดียว ลุ้นให้ตีเสมอให้ได้) แต่จนแล้วจนรอดก็ตามตีเสมอไม่ได้ซักที ครบ 90 นาที เกมส์ก็จบลงด้วยชัยชนะของการท่าเรือฯ 2-1 อกหักกันไปตามระเบียบ ได้รองแชมป์อีกแล้ว ครั้งที่แล้ว ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ก็รองแชมป์ เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ นักเตะทุกคนทำเต็มที่แล้ว ปีหน้าเอาใหม่ค่ะ สู้ต่อไปเถอะ บุรีรัมย์ พีอีเอ
หลังจากที่การแข่งขันจบลง ทิพย์กับเพื่อนเป้าก็แยกย้ายกันที่หน้าสนามศุภฯ เพื่อนเป้าขึ้นรถทัวร์กลับบุรีรัมย์ ส่วนทิพย์ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีตากสิน ก่อนอื่นก็ต้องหาอะไรกินก่อน (ด้วยความหิวโซ..กินข้าวเช้า+เที่ยงประมาณ11โมง มาถึงสถานีตากสินก็ทุ่มครึ่่งแล้ว) ที่บริเวณท่าเรือตากสินได้มีการจัดงานวันลอยกระทงของเขตบางรัก มีร้านจำหน่ายสินค้าเต็มไปหมด ผู้คนก็เยอะมาก เดินเบียดเสียดกันเลยทีเดียว ติดกับท่าน้ำก็มีการแสดงโขนด้วยค่ะ ทิพย์เดินดูได้ไม่ทั่วงานหรอกค่ะ ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกนั่นแหละว่า ทิพย์เหนื่อยล้าจากการเชียร์ฟุตบอลมานั่นเอง ก็เลยตัดสินใจไม่เดินต่อ กลับไปนั่งเลียแผลใจที่ห้องดีกว่า (หลังจากที่อกหักจากการแข่งขันในช่วงเย็น พอเกมส์จบก็นับศพทหารได้เลยค่ะ ตายเป็นเบือ!)
สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะเพื่อนๆ อ้อ ก่อนไปก็ขอแนะนำเพลงรำวงบุรีรัมย์ ให้เพื่อนๆรู้จักกันหน่อยค่ะ (เด็กบุรีรัมย์ถ้าไม่รู้จักเพลงนี้อ่ะ เชยๆๆๆ) แหม! นี่ถ้ามีโอกาสเจอกันกับเพื่อนๆ ทิพย์จะร้องเพลงนี้ให้ฟังเลยนะคะเนี่ย ^^
บุรีรัมย์ เดี๋ยวนี้เลิกตำน้ำกิน
ท้องฟ้าก็มีนกบิน บนดินก็มีข้าวเหนียว
สาวสวยแก้มเรื่อ ไม่เชื่อก็ลองมาเที่ยว
อีสาณกำลังสีเขียว *ขอเชิญมาเที่ยวบุรีรัมย์ (ซ้ำ*)
ผ่านมาอีสาณเชิญแวะบ้านหมู่เฮา
ปวดหนักปวดเบา แวะกินข้าวกินน้ำ
ตัวดำแต่ใจขาว นั่นหนอชาวบุรีรัมย์
เช้าสายบ่ายค่ำ **ก็ไม่เคยตำน้ำกิน (ซ้ำ**)