Saturday, April 9, 2011

สัมมนาข้าราชการเขตบางคอแหลม 28-30 ม.ค.54



กลับมาแล้วค่ะหลังจากที่เงียบหายไป3เดือน ก็ยุ่งๆเรื่องงานเรื่องสอบ และเหตุผลสำคัญคือแอร์การ์ดที่ใช้ต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตมีปัญหาอยู่บ่อยครั้งค่ะ กลับมาครั้งนี้ก็มาอัพเดตเรื่องราวย้อนหลังให้เพื่อนๆ ได้รับรู้เรื่องราวว่าที่ทิพย์เงียบหายไปน่ะ ไปทำอะไรมาบ้าง..ไปสัมมนาครั้งนี้ เป็นโครงการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงานของข้าราชการและลูกจ้างเขตบางคอแหลมแหลม และผู้ที่เกี่ยวข้อง รุ่นที่2 ระหว่างวันที่28-30ม.ค.54 ณ ชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต จังหวัดชุมพร


28 ม.ค.54

ตื่นเช้ามาก (05.15น.) เนื่องจากว่าเมื่อคืนก่อนเดินทางนอนไม่หลับกว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาเข้าไปตีสาม (ตื่นเต้นๆ) ซักพักพี่แป้นก็โทรมาตามไปขึ้นรถที่หน้าสำนักงานเขต เดินทางไปชุมพรครั้งนี้นั่งรถบัสคันที่1 (มีทั้งหมด3บัส) รถออกจากหน้าสำนักงานเขตเวลา06.30น. เวลาประมาณ 10.30น. ก็แวะนมัสการหลวงพ่อโต วัดตาลเจ็ดยอด จากนั้นก็เดินทางต่อไปเพื่อทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่อ่าวบ้านกรูด ถึงอ่าวบ้านกรูดก็ประมาณบ่ายโมง กินข้าวกินปลากันแล้วก็เดินทางต่อไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดชุมพร และเดินทางต่อไปยังที่พักซึ่งก็คือ ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ต ถึงที่พักเวลาประมาณ17.15น.ก่อนเข้าห้องพักก็เข้าห้องฟังพนักงานแนะนำโรงแรมกันก่อน ซึ่งที่ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ต นี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ ที่นี่เคยประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี2540ทำให้มีหนี้สินถึง300ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าของโรงแรม (คุณวริษศร รักษ์พันธุ์) ก็ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้เป็นหลักในการบริหารจัดการโรงแรม โดยได้มีการทำแปลงปลูกข้าวภายในบริเวณพื้นที่ของโรงแรม มีบ่อบำบัดน้ำเสีย ทำแปลงปลูกผัก ทำสบู่ แชมพู น้ำยาซักผ้า น้ำยาเอนกประสงค์ ใช้เศษผักทำน้ำหมักชีวภาพ เศษผักจากในครัวของโรงแรมก็นำมาทำเป็นอาหารเลี้ยงไก่ นำน้ำมันเก่ามาทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อใช้กับรถของโรงแรม ทำให้่สามารถลดค่าใช้จ่ายของโรงแรมลงได้ถึงครึ่งหนึ่งเลยค่ะ นอกจากนั้นทางเจ้าของโรงแรมยังได้สร้างเครือข่ายกับกลุ่มชาวบ้านที่อยู่รอบๆโรงแรม ด้วยการฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักการพึ่งพาตนเอง ซึ่งพนักงานของโรงแรมส่วนใหญ่ก็คือชาวบ้านที่อยู่รอบๆโรงแรม เมื่อสามารถทำให้พนักงานเข้าใจถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้วก็เป็นการง่ายที่จะถ่ายทอดให้กับชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียง ซึ่งก็เป็นผลให้สามารถสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนได้ในที่สุดค่ะ


29 ม.ค.54

ตื่นเช้า 06.20น. หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ไปทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ของทางโรงแรม ทานเสร็จก็ยังพอมีเวลาเดินชมรอบๆบริเวณโรงแรม บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆเลยค่ะ แขกชาวต่างชาติก็มีไม่เยอะเท่าไหร่ นี่ทิพย์ยังแอบวางแผนไว้ในใจเลยว่า ถ้ามีโอกาสจะมาพักผ่อนที่นี่อีกซักครั้ง..เวลาประมาณ9โมงเช้าก็ออกเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำโครงการนี้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดชุมพร..(ในภาพด้านบนทิพย์ยื่นอยู่บนสะพานไม้เคี่ยม ระยะทาง300เมตร เชื่อมระหว่างพื้นที่โครงการฯและเกาะชมนกชมไม้ซึ่งอยู่ด้านหลังของทิพย์ค่ะ) หลังจากเดินชมภายในโครงการจนทั่วแล้วก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงแบบปิคนิคกันในโครงการนี่แหละค่ะ อาหารอร่อยมาก แต่รสชาติค่อนข้างเผ็ดทีเดียว ทานมื้อเที่ยงเสร็จก็ออกเดินทางกันไปยังศาลกรมหลวงชุมพร ระหว่างทางก็แวะชมการสาธิตการทำผ้าบาติกอีกด้วยค่ะ กลับถึงโรงแรมที่พักประมาณ5โมงเย็น ยังพอมีเวลาได้เดินชายหาดยามเย็นซึ่งอยู่หน้าโรงแรมเลยค่ะ หาดทรายที่นี่สวยมาก หาดทรายขาว เนื้อทรายละเอียด แต่คลื่นลมค่อนข้างแรงก็เลยไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลกันน่ะค่ะ สำหรับคืนสุดท้ายของการมาสัมมนาก็จัดให้มีงานเลี้ยงเวลา2ทุ่ม ในงานก็มีการจับแจกรางวัล แต่เสียดายงานนี้ทิพย์ไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่ได้มาสัมมนาที่นี่ก็ได้อะไรหลายๆอย่างคุ้มค่า ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าเกินคุ้มเลยล่ะค่ะ


30 ม.ค.54

ตื่นเช้า 6.30น. แต่งตัว จัดกระเป๋า ทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์ เดินทางกลับ กทม.ค่ะ มื่อเที่ยงก็แวะทานข้าวกันที่ริมชายหาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ ถึง กทม.ประมาณ5โมงเย็น


ไปสัมมนาครั้งนี้ประทับใจโรงแรมที่พักมากๆ เพราะที่นี่ได้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับการบริหารจัดการของโรงแรม ตั้งแต่การปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัว การนำของเหลือ เศษผัก กลับมาใช้ใหม่โดยนำไปเป็นอาหารไก่ ทำน้ำหมักชีวภาพ ทำน้ำมันไบโอดีเซล การทำสบู่ แชมพู สำหรับใช้ในโรงแรม ซึ่งสามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้อย่างมากเลยค่ะ ถึงวันนี้ทางโรงแรมจะยังคงมีภาระหนี้สินที่ยังค้างชำระอยู่ แต่ก็สามารถดำเนินกิจการได้ ไม่ล่มสลายไปพร้อมกับวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อครั้งก่อน นับว่าเป็นความสามารถของผู้บริหารของที่นี่เลยก็ว่าได้ ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ ทิพย์ว่าความพอเพียง นำมาซึ่งความสุข สุขกับชีวิตความเป็นอยู่ รู้จักคำว่าพอดี พอเพียง พอประมาณ ไม่ทำอะไรที่เกินตัว เราก็จะไม่เกิดทุกข์ ขอให้มีความสุขกันทุกๆคนนะคะเพื่อนๆ ^____^

No comments:

Post a Comment